วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553

คำตอบของนักคณิตศาสตร์กับโอกาสที่จะพบมนุษย์ต่างดาว


ไซน์เดลี/บีบีซีนิวส์ - สงสัยและค้นหากันมานาน แต่ก็ยังไม่มีใครได้เจอะเจอกับมนุษย์ต่างดาว หรือสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาที่อยู่นอกโลกกันสักที เอ! แล้วเราจะมีโอกาสพบเพื่อนต่างดาวบ้างไหมหนอ? แล้วจะเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนกันล่ะ? คำถามเหล่านี้มีคำตอบอยู่ในแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่คิดค้นและพัฒนาโดยนักวิทยาศาสตร์เมืองผู้ดี

จะมีใครอยู่ข้างนอกนั่นไหมนะ? ข้อสงสัยของใครหลายๆ คนที่มักบังเกิดขึ้นเสมอเมื่อมองออกไปในท้องฟ้ากว้างยามกลางคืนที่ดารดาษไปด้วยหมู่ดาว และนั่นก็เป็นคำถามที่จุดประกายให้ศาสตราจารย์แอนดรูว์ วัตสัน (Prof Andrew Watson) จากคณะวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย (University of East Anglia) ประเทศอังกฤษ สร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์เพื่อคำนวณหาโอกาสและความเป็นไปได้ในการค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาที่อยู่นอกโลก และตีพิมพ์ในวารสารแอสโทรไบโอโลจี (Astrobiology)

ศ.วัตสัน ศึกษาความสัมพันธ์ของปัจจัยต่างๆ บนโลกที่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต และพัฒนาเป็นแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่สามารถคิดคำนวณความน่าจะเป็นในการเกิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา

เขาใช้เงื่อนไขสำคัญบนโลก ที่เป็นสิ่งกำหนดการวิวัฒน์ของสิ่งมีชีวิตในการทำนายความเป็นไปได้ ที่จะเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้บนดาวเคราะห์ดวงอื่นๆ ที่คล้ายกับโลก ซึ่งการหล่อหลอมของสภาวะที่เหมาะสม สำหรับสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะอุบัติขึ้นบนโลกหรือดาวเคราะห์ดวงใดๆ จะเสร็จสิ้นลงเมื่อดวงอาทิตย์ส่องสว่าง

แบบจำลองดวงอาทิตย์บ่งบอกว่าเมื่อแสงสว่างของดวงอาทิตย์มากขึ้น ส่งผลสู่แบบจำลองของอุณหภูมิก็จะให้ข้อมูลที่ทำนายได้ว่า ยุคสมัยของสิ่งมีชีวิตกำกำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกประมาณพันล้านปีข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นมาก หากเทียบกับช่วงเวลา 4 พันล้านปีที่ผ่านมา นับแต่ดาวเคราะห์ดวงนั้นถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก

"เขตชีวมณฑล (biosphere) บนโลกของเราขณะนี้ก็ถือว่ามีอายุเก่าแก่ประมาณหนึ่งแล้ว ซึ่งก็ได้บ่งบอกนัยสำคัญบางอย่างที่ว่าน่าจะเป็นไปได้ว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิต ที่มีความซับซ้อนหรือปัญญาอันชาญฉลาดกำลังรอวันอุบัติขึ้นบนดาวเคราะห์ดวงใดดวงหนึ่ง" ศ.วัตสันเผย

"ณ เวลานี้ โลกก็เป็นเพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้นที่จะให้เราเรียนรู้เรื่องราวของดาวเคราะห์อันเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต ถ้าเราศึกษาลึกลงไปว่าดาวเคราะห์ดวงนี้มีสิ่งใดเอื้อให้สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ได้ รวมทั้งวิวัฒนาการของพวกเราที่มีมาก่อนหน้านี้"

"และตัวอย่างเดียวของเรานี้แหละ ที่เราจะคาดคะเนต่อไปได้ว่า การวิวัฒนาการจากสิ่งมีชีวิตอย่างง่ายๆ จนกลายเป็นชีวิตที่ซับซ้อน และพัฒนาไปสู่สิ่งมีชีวิตอันชาญฉลาดได้อย่างไร อย่างไรก็ดี ขณะนี้เราเชื่อกันว่าพวกเราวิวัฒนาการขึ้นมาในยุคท้ายๆ ของช่วงเวลาแห่งการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตบนโลก ซึ่งเป็นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ และในความเป็นจริงแล้วช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์สำคัญต่างๆ นั้นก็สอดคล้องกันอย่างเหมาะเจาะ" ศ.วัตสันกล่าว

ศ.วัตสัน เสนอว่า จำนวนขั้นของการวิวัฒนาการที่จำเป็นสำหรับการสร้างสรรค์สิ่งมีชีวิตอันชาญฉลาดอย่างเช่นมนุษย์เรานั้นมี 4 ขั้นด้วยกัน คือ 1.นับตั้งแต่การปรากฏของสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว 2.ต่อไปเป็นสิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ 3.พัฒนาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอวัยวะซับซ้อนมากขึ้น และ 4.จนกระทั่งกลายมาเป็นสิ่งมีชีวิตที่ฉลาดล้ำและมีภาษาพูดสำหรับสื่อสารให้เข้าใจกัน

"สิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนนั้นก็จะมีรูปร่างแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตอย่างง่ายที่สุด ด้วยการวิวัฒนาการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำให้ความความซับซ้อนมากขึ้นและหลงเหลือสิ่งที่เป็นธรรมดาสามัญน้อยลง ส่วนสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาก็จะต้องมีวิวัฒนาการมากกว่านั้น และคงเหลือส่วนที่ธรรมดาๆ น้อยลงไปอีก" ศ.วัตสัน อธิบาย

ทั้งนี้แบบจำลองของ ศ.วัตสัน บ่งชี้ว่า เฉพาะในกาแลกซีทางช้างเผือกที่เราอยู่ มีดวงดาวมากถึง 100,000,000,000 ดวง (หนึ่งแสนล้านดวง) มีดวงดาวคล้ายโลกอีหลายพันดวง แต่ด้วย 4 ขั้นของวิวัฒนาการที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ความน่าจะเป็นสูงสุดที่อาจมีวิวัฒนาการในแต่ละขั้นเกิดขึ้นไม่น่าเกิน 10% ดังนั้นโอกาสที่จะพบสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาจึงน้อยมากๆ น้อยกว่า 0.01% ในรอบ 4 พันล้านปีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี วิวัฒนาการแต่ละขั้นนั้นมีส่วนสัมพันธ์กัน และจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อขั้นตอนก่อนหน้านั้นได้อุบัติขึ้นแล้ว ซึ่งก็มีแนวโน้มเกิดขึ้นได้เท่าๆ กันในช่วงเวลาที่ผ่านมาของประวัติศาสตร์โลก และยังสอดคล้องกันกับช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงหลักๆ ที่เกิดขึ้นกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก.

เทคนิคการเรียนคณิตศาสตร์


การเรียนรู้คณิตศาสตร์ ถ้าเราถูกสอนโดยวิธีครูบอกความรู้ หรือเทคนิคลัดๆ ให้ท่องจำ นำไปใช้โดยปราศจาก
ความเข้าใจ ไม่รู้ที่มา ไม่รู้เหตุผล เราก็จะไม่ได้คุณสมบัติดังกล่าว อะไรคือหัวใจสำคัญของคณิตศาสตร์
เมื่อเราเรียนคณิตศาสตร์ไป จนถึงระดับมัธยมศึกษา เราควรได้สิ่งต่อไปนี้ มีความรู้ใน คำศัพท์ บทนิยาม หลักการ ทฤษฎีบท โครงสร้าง วิธีการมีความเข้าใจ ในความคิดรวบยอดจนสามารถอธิบายได้ หรือเขียนได้ หรือยกตัวอย่างได้ แปลงปัญหาจากรูป
หนึ่งไปสู่รูปหนึ่งได้ ประมาณคำตอบได้ ระบุความสัมพันธ์ได้ ตรวจสอบผลที่เกิดได้
มีทักษะต่างๆ ดังนี้ ทักษะการแก้ปัญหา การนำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริง การคิดอย่างมีเหตุผล การคิดคำนวณ
การวัด การประมาณ การอ่านและแปลผลข้อมูล การนำเสนอข้อมูล การทำนาย และการใช้คอมพิวเตอร์
มีความสามารถในการวิเคราะห์และประยุกต์ใช้

ค่ายคณิตศาสตร์


ค่ายคณิตศาสตร์เป็นกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่สำคัญ ในการช่วยเสริมสร้างเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ให้กับนักเรียน ช่วยให้นักเรียนเห็นคุณค่าและประโยชน์ของคณิตศาสตร์ ได้เรียนรู้ทักษะการแก้ปัญหา การให้เหตุผล ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ซึ่งได้มีการสอดแทรกไว้ในกิจกรรมฐานต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นฝึกให้นักเรียนรู้จักการทำงานเป็นทีม การยอมรับความคิดเห็นของคนอื่นๆ รู้จักวางแผนการทำงาน และรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย เป็นการปลูกฝังด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ทั้งในด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการ รวมทั้งความสนุกสนานที่ได้รับจากการนันทนาการ
กิจกรรมหลัก

มีกิจกรรมหลักอยู่ 4 กิจกรรม
1) กิจกรรมนันทนาการ
2) กิจกรรมฐาน
3) กิจกรรมเคล็ดลับกลเกมส์
4) สรุปกิจกรรมฐาน มอบรางวัลและปิดค่าย

Mozart Effect


Mozart Effect
การที่ดนตรีของ Mozart ได้ปรากฏอยู่ในงานวิจัยทางคณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องใหม่ นักคณิตศาสตร์หลายต่อหลายรุ่นได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างงานดนตรีของ Mozart กับสัดส่วนทอง (Golden Ratio) นอกจากนี้ยังมีความเชื่อที่ว่ามีปรากฏการณ์ Mozart (Mozart Effect) กล่าวคือการฟังดนตรีของ Mozart สามารถช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้สมาธิของนักเรียน อันจะนำไปสู่ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาที่ดีขึ้น

Windhill Primary School ใน Southern Yorkshire ของอังกฤษ ได้จัดให้มีโปรแกรมทดลองเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการฟังดนตรีและผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักเรียน ดนตรีที่ใช้ในการทดลองไม่ใช่มีเพียงแค่งานของ Mozart เท่านั้น งานของ Chopin Brahms Beetheven หรือแม้กระทั่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ Mission Impossible ได้ถูกนำมาใช้ในการศึกษาครั้งนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าดนตรีของ Mozart จะเหมาะสมกับกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์มากที่สุด จากการทดลองพบว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ฟังดนตรีของ Mozart aroque composer) มีผลสัมฤทธิ์ทางศึกษาดีกว่านักเรียนที่ไม่ได้ฟังดนตรีของ Mozart ถึง 10% โดยเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังก็คือ ….

ดนตรีของ Mozart ที่มีแบบรูปของโน้ตดนตรีที่ซับซ้อนสามารถกระตุ้นความคิดทางคณิตศาสตร์ได้เนื่องจากสามารถเข้าถึงสมองส่วนที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการคิดเชิงคณิตศาสตร์โดยตรง ในขณะที่ดนตรีชนิดอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้

อดคิดเล่น ๆ ไม่ได้ว่าดนตรีไทยเดิมของเรา เช่น ม้าย่อง ค้างคาวกินกล้วย จะกระตุ้นความคิดทางคณิตศาสตร์ได้อย่างดนตรีของ Mozart ไหมหนอ..

ตลาดน้ำอัมพวา


ชุมชนริมคลองอัมพวา ได้รับรางวัลอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม
ปี 2008 จากองค์การยูเนสโก (UNESCO)
โครงการสิ่งแวดล้อมศิลปกรรม พื้นที่ริมคลองอัมพวา (Thailand Cultural EnvironmentProject : Amphawa Canal Community) ได้รับรางวัลชมเชย (Honourable Mention) ด้านการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม จากองค์การยูเนสโก ภาคพื้นทวีปเอเชียแปซิฟิก ประจำปี 2008 (UNESCO Asia-Pacific Heritage Award) ซึ่งเป็นผลจากความร่วมมือระหว่างภาคราชการ ภาคเอกชนและชุมชน ในการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อม ศิลปกรรมของชุมชน

โดยได้รับการสนับทางการเงินจากสำนักงานให้ความช่วยเหลือทางวิชาการเดนมาร์ก (DANIDA) เทศบาลตำบลอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม มูลนิธิชัยพัฒนา โดยสบทบทุนกับเจ้าของอาคารในการอนุรักษเ์รือนไทย เรือนแพและเรือนพื้นถิ่น ที่มีคุณค่าทางมรดกทางวัฒนธรรม ภายใต้การสันบสนุนของสำนักงานนดยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีผลต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม จนเป็นตัวแบบให้แก่ชุมชนอื่นๆ ในกระบวนการอนุรักษ์และฟื้นฟูชุมชน

ตลาดน้ำดำเนินสะดวก


ในอดีตตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นศูนย์รวมในการค้าขาย พืชผัก และผลไม้ตามฤดูกาลจากเรือกสวนไร่นาของ
่เกษตรกรในย่านนั้น แต่ปัจจุบันตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นกึ่งตลาดบกตลาดน้ำ คือ มีของขายทั้งบนบกและในเรือมา
เที่ยวที่ตลาดนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะร้อน เพราะมีทางเดินที่มีหลังคาตลอดสองฝั่งของตลาด จึงทำให้เดินเที่ยวชมตลาดได
้อย่างสบาย ๆ คลองนี้เป็นคลองที่คนใน จ. ราชบุรี จ.สมุทรสาคร และ จ.สมุทรสงคราม ไปมาหาสู่กัน มีความหมาย
ตรงกับชื่อ “ดำเนินสะดวก” คือ การเดินทางสะดวก แม้ทุกวันนี้ จุดประสงค์เริ่มแรกจะเปลี่ยนแปลงไป แต่ก็ยังมี
พ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยว เดินทางไปอย่างล้นหลาม
ปัจจุบัน ตลาดน้ำดำเนินสะดวก จึงเปรียบเสมือน เป็นที่นัดของเรือร้อยๆลำเพื่อชุมนุมขายสินค้าการเกษตร
และสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองตลอดจนร้านขายของที่รับจากโรงงานในกรุงเทพหรือจากต่างจังหวัดทั่วประเทศ สำหรับ
นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศแล้วคลองที่เต็มไปด้วยสินค้าทุกชนิดที่เขาตื่นตาตื่นราคาเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างหนึ่งที่
ี่ีเดียวตลาดน้ำจะเริ่มคึกคัก ตั้งแต่ 6.00 น.ไปจนถึงประมาณ 11.00 น. นอกจากเขาจะได้ชมตลาดน้ำแล้วชีวิตสองฝั่ง คลองของชาวไทยชนบทยังเป็นภาพที่น่ามองอย่างมากสลับกับเรือกสวนและไร่นาของชาวบ้านส่วนใหญ่ของพื้นที่
ี่แถบนี้ต่างจากภาพที่เขาคุ้นตา ตามเมืองใหญ่ๆ ไปลิบลับ